ช่างสักสาว Sarah Terry ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการสักตามท้องถนนในสหราชอาณาจักร วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอถึงประสบการณ์และเทคนิคต่างๆในการสัก เธอเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับเส้นทางสู่การเป็นช่างสักเร่ร่อนไปตามร้านต่างๆ และรอยสักที่เธอสร้างขึ้นระหว่างทาง รวมไปถึงสิ่งที่เธอหลงรักในรอยสักและรอยสักที่เธอชื่นชอบมากที่สุด เราอย่ารอช้าไปทำความรู้จักกับเธอกันเลย
th-ink : อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณมาเป็นช่างสัก ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย?
Sarah Terry : เดิมทีแล้วฉันอยากเป็นช่างสักมาตั้งแต่เด็กๆ ฉันเคยดูคนที่มีรอยสักเยอะๆและฉันคิดว่าเขาดูเท่มากๆ และอยากเป็นแบบพวกเขา ซึ่งโดยตัวฉันเองนั้นก็หลงรักศิลปะมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มต้น ทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับรอยสักดูเหมือนว่าจะเป็นอาชีพที่สมบูรณ์แบบสำหรับฉันมากๆ ฉันจำได้ว่าออกแบบรอยสักครั้งแรกระหว่างการสอบภาษาอังกฤษปี 7 (และสักในวันเกิดครบรอบ 18 ปีของฉัน!) ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมทำให้ฉันหลงรักมันมากขึ้น
th-ink : คุณมาเป็นศิลปินได้อย่างไร ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย?
Sarah Terry : แม้ว่าตัวเองอยากจะเป็นช่างสักมาโดยตลอด แต่อาชีพศิลปะของฉันเน้นไปที่สิ่งทอมากกว่าตั้งแต่เรียนมา ฉันเรียนวิชาเย็บปักถักร้อยที่มหาวิทยาลัย เริ่มจัดเวิร์กช็อปในโรงเรียน และในที่สุดก็ได้รับใบรับรองการสอน สิ่งนี้ทำให้ฉันได้ทำงานในสถาบันสอนผู้ต้องต้องขังเยาวชน มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆมากมาย
Sarah Terry : ในช่วงเวลานี้เองที่ Instagram เปิดตัว และทันใดนั้นดวงตาของฉันก็เปิดรับความเป็นไปได้ของการสัก ฉันตื่นเต้นกับมันอีกครั้ง และเริ่มคุยกับเจ้าหน้าที่เรือนจำว่าฉันอยากสักมาตลอด พวกเขาให้กำลังใจฉันมาก ดังนั้นฉันจึงเริ่มมองหาที่ฝึกงาน ฉันสอนตอนกลางวัน วาดรูป และระบายสีตอนกลางคืน ฉันใช้เวลาประมาณหนึ่งปีครึ่งในการหาที่ฝึกงาน และไม่ได้มองย้อนกลับไปตั้งแต่นั้นมา บางครั้งฉันต้องเหน็บแนมตัวเอง เพื่อที่ให้ได้ถึงฝันที่ฉันได้ตั้งไว้อย่างแท้จริง
th-ink : คุณจะอธิบายสไตล์ของคุณว่าอย่างไร?
Sarah Terry : ฉันอาจจะเรียกมันว่าเป็นลายสักดอกไม้ที่มีความเป็น Neo traditional อยู่ในนั้น (แต่ฉันก็เต็มใจ และสามารถทำ dotwork ได้เช่นกัน) ฉันชื่นชอบกระบวนการเหล่านี้เป็นอย่างมาก
th-ink : คุณช่วยบอกเราเกี่ยวกับกระบวนการเบื้องหลังรอยสักของคุณได้ไหม?
Sarah Terry : ฉันมักจะวาดหนึ่งสัปดาห์ก่อนการนัดหมาย ฉันเคยทำเช่นนี้ แต่พบว่าความวิตกกังวลของฉันมีวันที่ทุ่มเทให้กับมันแทน ตอนนี้ฉันโชคดีที่มีคำขอมากมายสำหรับสไตล์ของฉัน – ฉันมีแกลเลอรีรูปภาพขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้ และความหลงใหลล่าสุดของฉัน ซึ่งก็คือเห็ด – ที่ฉันใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ด้วยวิธีนี้ ฉันจึงมั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับเนื้อหาที่เป็นต้นฉบับจริงๆ ไม่ใช่แค่เนื้อหาที่มาจากหน้าแรกของ Google ฉันใช้ไอแพดในการวาดภาพ โดยปกติแล้วฉันจะร่างภาพวาดหลายครั้งก่อนที่จะแสดงผลการออกแบบขั้นสุดท้าย มันจึงทำให้งานของฉันดูซับซ้อน
th-ink : อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณ อะไรเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบรอยสักเล็กๆของคุณ?
Sarah Terry : ผู้อ่านคงไม่แปลกใจที่รู้ว่าธรรมชาติ คือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉัน ฉันชอบวาดสิ่งที่เป็นธรรมชาติมาโดยตลอด ฉันอยากจะสื่อสิ่งนี้ให้กับทุกคนได้รับรู้ในตัวฉัน มีสิ่งที่สวยงาม และน่าทึ่งมากมายอยู่ที่นั่น ฉันได้แรงบันดาลใจเป็นพิเศษจากการวางคู่กัน เช่น แสง/ความมืด ธรรมชาติ/ฝีมือมนุษย์ ฯลฯ นอกจากนี้ ฉันยังได้แรงบันดาลใจจากการออกแบบสิ่งทอ ภาพพิมพ์ ศิลปะพื้นบ้าน และแฟชั่นอีกด้วย
th-ink : คุณชอบสักลายสักอะไรและอยากทำอะไรเพิ่มเติม?
Sarah Terry : ฉันชอบสักรูปดอกไม้ และเห็ด และพูดตรงๆ ฉันแค่อยากทำมากกว่านี้! ฉันต้องการสำรวจโครงการด้วยมือเปล่าที่ใหญ่ขึ้นโดยเฉพาะซึ่งทำงานร่วมกับร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ ฉันพร้อมจะทำข้อเสนอดีๆ สำหรับลูกค้าที่ต้องการร่วมงานกับฉันในเรื่องแบบนี้ เพราะฉะนั้นฉันยังเปิดใจให้กับทุกๆโอกาสที่ลูกค้าจะมอบให้ฉัน
th-ink : คุณช่วยบอกเราเกี่ยวกับรอยสักของคุณเองได้ไหม? คุณเป็นนักสะสมรอยสักหรือไม่?
Sarah Terry : แน่นอนว่าฉันเป็นพวกที่คลั่งไคล้รอยสักเป็นอย่างมาก ฉันภูมิใจในคอลเลกชั่นรอยสักของตัวเองมาก ซึ่งรวมถึงผลงานของ Claudia de Sabe, Sneaky Mitch, Wendy Pham, Stu Pagdin, Maverick Reeve, Danielle Rose และ Gem Carter (ซึ่งเพิ่งสร้างผลงานชิ้นหลังที่น่าทึ่งของฉันเสร็จ) ตอนนี้รอยสักทั้งหมดของฉันก็เกือบจะเต็มร่างกายแล้ว แต่ฉันมีแผนที่จะพบกับโจ ฟรอสต์เร็วๆ นี้เพื่อเติมเต็มพื้นที่ขนาดใหญ่สุดท้ายของฉัน ฉันมีรอยสักนกจำนวนมาก ตามมาด้วยเสือ และแมว และแน่นอน ดอกไม้! ฉันยังไม่มีลวดหนาม หรือเห็ด คิดว่าสักวันฉันอาจจะสักลายสักพวกนี้ให้ได้!
th-ink : อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเป็นศิลปินข้างถนนช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย?
Sarah Terry : ในปี 2020 ฉันหย่าร้าง และขายบ้าน สิ่งแรกที่ฉันต้องการทำคือสำรวจอิสรภาพที่ฉันค้นพบใหม่ ฉันมีโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง – แต่ฉันไม่รู้ว่าที่ไหน การเดินทางครั้งนี้เกี่ยวกับการเห็นสถานที่ในสหราชอาณาจักรที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ด้วยความหวังว่าฉันจะหาสถานที่ต่อไปเพื่อตั้งรกราก ส่วนหนึ่งคือการพบปะผู้คนใหม่ ๆ และสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ กับศิลปินและลูกค้าคนอื่น ๆ ทั่วประเทศนี้ และส่วนหนึ่งคือการมีความสุขกับชีวิตของตัวเองหลังจากใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นมาเป็นเวลานาน
th-ink : การเป็นแขกรับเชิญตามร้านสักต่างๆแตกต่างกับการมีร้านสักของตัวเองอย่างไร?
Sarah Terry : ในทุกวันนี้ฉันยังคงเดินทางอยู่และคิดว่ามันน่าสนใจมากกว่ามีร้านเป็นของตัวเอง มันอาจจะเครียดนิดหน่อยในการเก็บข้าวของ และเดินหน้าต่อไป แต่มันก็คุ้มค่าที่ฉันได้เห็นสถานที่ใหม่ๆ มากมาย และพบปะผู้คนใหม่ๆ ชีวิตคือการใช้ชีวิต และฉันคือประสบการณ์ทั้งหมด! เพราะฉะนั้นนี่คือโอกาสใหม่ๆของฉัน
th-ink : ถ้าลูกค้าต้องการสักกับคุณจะติดต่อคุณได้ที่ไหน?
Sarah Terry : ตอนนี้ฉันเป็นช่างสักรับเชิญประจำทุกเดือนที่ Tooth and Talon ในแมนเชสเตอร์ และ The Gold Room ในลีดส์ ฉันมีแขกรับเชิญที่อื่นในสหราชอาณาจักรที่ได้รับการยืนยันในขณะที่เราพูดคุย ฉันวางแผนที่จะไปไบรตัน เบอร์มิงแฮม ลอนดอน เวลส์ นอริช เอดินเบอระ กลาสโกว์ และดันดี รวมถึงที่อื่น ๆ อีกสองสามแห่ง ซึ่งตารางงานต่างๆของฉัน ฉันจะอัปเดตสิ่งเหล่านี้บนโซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ของฉัน ดังนั้นถ้าใครอยากจะสักโดยฉัน สามารถเข้าไปดูได้ตาม Instagram และ Social Media ของฉันเลย
th-ink : คุณได้รับผลกระทบจากโรคระบาดอย่างไร ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย?
Sarah Terry : ฉันรู้สึกเหมือนได้เห็นผลกระทบอย่างแน่นอน การมีเหตุการณ์สำคัญระดับโลกเช่นนี้เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเราย่อมส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งอย่างแน่นอน! ฉันคิดว่าโรคระบาดบวกกับวิถีชีวิตแบบเร่ร่อนของฉัน ทำให้การจองที่พักทำได้ยากขึ้น ชอบอะไร มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับความสมดุล ฉันเข้าใจว่าฉันได้แลกโอกาสในการสร้างฐานลูกค้าด้วยการย้ายถิ่นฐาน แต่ฉันหวังว่าท้ายที่สุดแล้วมันจะคุ้มค่าเมื่อฉันพบสถานที่ของฉัน และสามารถตั้งรกรากที่นั่นพร้อมกับความทรงจำอันน่าทึ่งทั้งหมดที่ฉันสร้างได้ และหวังว่าฉันจะได้สร้างเครือข่ายที่สวยงามของลูกค้าที่งดงามทั่วสหราชอาณาจักร! หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราอาจจะได้เจอกันสักครั้งนึงนะคะ ขอบคุณมากๆสำหรับวันนี้
เพื่อนๆสามารถติดตามผลงานของเธอเพิ่มเติมผ่านทาง Instagram ได้เลยนะครับ วันนี้หมดเวลาลงแล้วต้องลากันไปก่อน พบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ
here.
