ยอดฝีมือในการทำงานสีดำ(ฺBlack work) เขาเป็นทั้งเป็นนักข่าวและในแง่หนึ่งก็เป็นปราชญ์อีกด้วย รอยสักของเขามีพลังและงานฝีมือ เขาบอกว่ารอยสักเหล่านี้เป็น “การแสดงทางจิตวิญญาณ” สำหรับเขา ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันนี้ ทาคุโอชิมะได้มีโอกาศบอกเราเกี่ยวกับชีวิต และเส้นทางอาชีพช่างสักของเขา ขอให้สนุกกับบทสัมภาษณ์ครับ
Taku Oshima, Tokyo, Japan
Tattoolife: สวัสดี Taku Oshima และขอบคุณมากสำหรับการสัมภาษณ์ครั้งนี้! คุณอยากจะแนะนำตัวเองกับผู้อ่านของเราอย่างไรบ้าง?
Taku Oshima: ฉันเป็นช่างสักที่เน้นการสักแบบชนเผ่า(Tribal) และงานสีดำ(Blackwork)สมัยใหม่ ซึ่งเป็นจุดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของฉันเอง เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันได้ฟื้นฟูรอยสักแบบดั้งเดิมของโอกินาวา, รอยสักแบบดั้งเดิมของ Hajichi และ Ainu, Nuie; เช่นเดียวกับ Jomon ซึ่งเป็นชื่อของยุคก่อนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อน ฉันคิดว่า วัฒนธรรมการสักของชนเผ่าได้แพร่หลายที่ญี่ปุ่นในสมัยโบราณ ดังนั้นฉันจึงได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลายของเครื่องปั้นดินเผาในช่วงเวลานั้น
Taku Oshima, Tokyo, Japan
Tattoolife: บอกเราเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิหลังของคุณหน่อย คุณเรียนสักที่ไหนและเมื่อไหร่? คุณคือใคร? อะไรคือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ?
Taku Oshima: ฉันได้เรียนรู้การสักด้วยตัวเองขณะเดินทางมาตั้งแต่ปี 1994 ฉันไม่เคยมีอาจารย์เลย ฉันสนุกกับการสัก กับเพื่อนฮิปปี้ของฉันเช่น Alessandro Pellegrini, Cy Wilson และคนอื่น ๆ อีกมากมาย
Taku Oshima, Tokyo, Japan
Tattoolife: ความหลงใหลในศิลปะชนเผ่าเริ่มต้นเมื่อใด คุณเลือกสไตล์ของคุณอย่างไรและคุณจะเรียกสไตล์นั้นว่าอย่างไร? มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและยังคงอยู่ในวิวัฒนาการอยู่อีกหรือไม่?
Taku Oshima: ฉันคิดว่ามันเป็นอย่างนั้นในปี 1998 ตอนนั้นฉันอยู่บนชายหาดใน Goa ประเทศ India สูบบุหรี่อิตาเลียนกับเพื่อน ๆ จากนั้นฉันพบเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เดินอยู่บนชายหาดห่างจากเรา 30 เมตรสิ่งที่ทำให้เราตกใจนั่นคือ ผู้หญิงคนนั้นมีรอยสักทั้งตัว(Body suite) สีดำล้วนๆ และสะอาดตามากๆแม้จะอยู่ห่างออกไป 30 เมตร! ฉันวิ่งไปหาเธอและคุยกับเธอ เธอบอกว่าช่างที่สักให้เธอคือ Alex Binnie ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันก็พยายามทำรอยสักปะเภทนั้นมาตลอด ชั้นชอบมากที่มันยังคงดูดีอยู่ แม้อยู่ะไกล และที่สำคัญ มันจะควรเป็นงานสีดำเท่านั้น
Taku Oshima, Tokyo, Japan
Tattoolife: ฉันได้ยินที่คุณพูดว่า“ สำหรับฉันการสัก เป็นการแสดงทางจิตวิญญาณ แต่ฉันไม่ได้หมายถึงสิ่งนี้ในแง่ที่ว่า เป็นพิธีการสักเริ่มต้นวัยหนุ่มสาวเหมือนในสังคมชนเผ่า แต่เป็นการยืนยันตัวตนที่มีอยู่แล้วมากกว่า” – ในประโยคนี้คุณต้องการจะบอกอะไรกันแน่ ?
Taku Oshima, Tokyo, Japan
Taku Oshima: ความหมายของรอยสักมักเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และจากสังคมหนึ่งไปสู่อีกสังคมหนึ่ง แต่ก็ยังมีความรู้สึกสนุกกับการสักอยู่ดี ฉันคิดว่ามันสามารถเชื่อมโยงกับการมองชีวิตในแง่บวกของเราได้
เดินทางกันมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว Becomeinked ก็ต้องขอลาไปก่อนเพียงเท่านี้นะครับ ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้า หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ สวัสดีครับ
Champ(WT tattoo) : แปล
Credit : Tattoolife.com