ร่างกายของมนุษย์คือผืนผ้าใบของ “ Sasha Masiuk ” เพราะเมื่อเธอได้รับมอบหมายงาน เธอจะวิเคราะห์ร่างกายของลูกค้าคนต่อคน และหาลายสักที่เหมาะสมกับทรวดทรงที่เป็นเอกลักษณ์นั้น แม้ว่าบางครั้งเธอต้องใช้วิธี การวาดแบบลงบนผิวเลยก็มี เพราะนั่นเป็นอีกโอกาสหนึ่ง ที่คุณจะได้รับศิลปะชั้นยอดติดอยู่บนผิวคุณไปตลอดกาล
วันนี้เรามานั่งคุยกับ“ Sasha Masiuk ” เพื่อพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบ และมีงานอะไรใหม่ๆที่เธออยากจะสร้างในปีนี้บ้าง อย่ารอช้า ไปดูกันเลยครับ
คุณเติบโตมาอย่างไรในประเทศ Ukraine และคุณเริ่มเป็นช่างสักตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
“ ฉันเกิดและโตใน Ukraine แต่ว่าได้รับการฝึกฝนจากศิลปินชาวรัสเซีย ก่อนหน้านั้น ฉันได้เคยศึกษาเกี่ยวกับงานสักมาแล้วบ้าง มันเริ่มเมื่อสามีของฉันซื้อเครื่องสักมาให้ฉัน จากนั้นมาฉันก็เริ่มเรียนรู้ ฝึกฝน ผู้ที่มาเป็นแบบให้กับฉันก็ไม่ใช่ใคร นั่นคือเพื่อนๆ แล้วก็ร่างกายของตัวฉันเอง เป็นการลองถูกลองผิดเรื่อยมา แต่ฉันก็ยังฝึกฝนมันมาตลอด จากนั้นฉันก็เริ่มออกแบบลายของฉัน และหาสไตล์ของตัวเอง ลองถูกลองผิดอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นแหละ ฉันจึงคิดว่าฉันอยากจะออกแบบรอยสักให้พิเศษและเป็นเอกลักษณ์ โดยไม่ใช้การก๊อปปี้งานเลย และทุกๆงานของฉันจะต้องเป็นการออกแบบของฉันเท่านั้น ”
ตอนที่คุณเริ่มสักในครั้งแรก ใครคือศิลปินช่างสักที่คุณชื่นชอบ หรือตอนนี้คุณชื่นชอบช่างสักคนไหนบ้าง ?
“ ฉันเริ่มสักครั้งแรกตอนฉันอายุ 21 ฉันฝึกฝนการวาดเรื่อยมา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับฉัน โดยฉันได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปินชาวตะวันตกอย่าง Thomas Hooper จากงานดอท และงานมานดาล่าของเค้า เค้าช่วยให้ฉันตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าฉันอยากจะทำงานประเภทนี้ อีกคนหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นคือ Black Prada พวกเราเคยร่วมงานด้วยกันครั้งหนึ่ง Black Prada เป็นยอดฝีมือที่สามารถเปลี่ยนร่างกายของมนุษย์ ให้เป็นผืนผ้าใบ แถมยังทำแต่งานที่ใช้พื้นที่ใหญ่ๆ รวมถึงออกแบบงานที่หวือหวา หลุดโลกอีกด้วย ”
สิ่งใดที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณ สร้างงานสักด้วยเส้นอันคมกริบ และการไล่เงาที่นุ่มนวล งานของคุณสามารถดึงดูดลูกค้าแบบไหนได้บ้าง ?
“ ฉันแค่สักให้ลูกค้าในรูปแบบที่เขาเหมาะสม และฉันยังทำงานอย่างสุดฝีมือ ที่จะทำให้รอยสักของฉันสัมพันธ์กับร่างกายมนุษย์ ทั้งลายเส้นและการไล่เงา ส่วนใหญ่งานของฉันจะเป็นที่สนใจของสาวๆ แต่ฉันก็คิดว่าจะไม่หยุดแค่นี้ ฉันยังเรียนรู้อะไรใหม่ๆตลอดเวลา ”
คุณชอบทำงานสักขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กมากกว่ากัน ?
“ บอกตามตรง ว่าฉันชอบลายสักชิ้นใหญ่มากกว่า เนื่องจากการสักลายเล็กๆ นั้นยากต่อการเพิ่มเติมและเชื่อมมันเข้าด้วยกันหากต้องการสักเพิ่มในภายหลัง แต่ฉันก็ทำทุกๆงาน แม้แต่งานสักจิ๋วๆ แม้มันจะต้องใช้ความตั้งใจมากกว่าเก่าก็ตาม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมฉันถึงชอบลายสักชิ้นใหญ่ๆมากกว่า ”
ในปีนี้คุณหวังว่าจะได้สักรูปไหนเพิ่มบ้าง ?
“ ก่อนอื่น ฉันต้องบอกว่าฉันชอบรอยสักที่ฉันดีไซน์มากๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมฉันถึงชอบลูกค้าชาวอเมริกัน เพราะว่าพวกเขาอยากได้รอยสักที่เป็นตัวตนของฉันจริงๆ มันทำให้ฉันได้รับโอกาสมากมาย ที่จะทำในสิ่งที่ฉันชอบ ได้พูดคุยเรื่องไอเดียและปรับเปลี่ยนนิดหน่อย ฉันยังคงรอที่จะมีโอกาสได้ทำงานใหญ่ๆกับเค้าบ้าง ”
ถ้าเกิดว่าตอนนี้คุณไม่ได้เป็นช่างสักคุณคิดว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ?
“ ฉันคงจะอยู่ติดบ้านกับครอบครัวของฉัน ตอนนี้ลูกชายฉันอายุได้ 3 ขวบแล้ว และเราก็ชอบพากันไปเดินเล่นที่มหาสมุทรเสมอ ”
คุณหวังที่จะขยายและปรับปรุงร้านคุณอย่างไรบ้าง ?
“ ตอนนี้พวกเราย้ายมาอยู่ในสตูดิโอขนาดใหญ่ บริเวณในเมืองของ Los Angeles แล้วเราก็ยังได้ทำงานร่วมกันกับ Nora เพื่อนร่วมงานของฉัน เรายังมีอีกร้านอีกหลายร้านสัก ในรอบๆ อเมริกาที่เราสามารถหมุนเวียนไปเป็นแขกรับเชิญได้ ร้านสักของเรายินดีต้อนรับเสมอ หวังว่าจะได้เจอเพื่อนๆเร็วๆนี้นะคะ