จาก Venezuela ถึง New York : อาชีพช่างสักที่ยาวนานถึง 15 ปี แบ่งตามการเดินทาง การค้นพบ และการเผชิญหน้าซึ่งในหลาย ๆ ครั้ง นั่นทำให้วิถีชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน วันนี้ Yomico Moreno บอกเล่าถึงประสบการณ์และความหลงไหลในงานสักของเขา ความหลงใหลในศิลปะ สารทุขสุขดิบ และรวมถึงเรื่องราวการเดินทางในวงการสักมาแสนนาน วันนี้เรา(Tattoolife) นำบทสัมพาสณ์มาฝากกันครับ
Tattoolife: สวัสดี Yomico ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนทนากับคุณ คุณสักมานานกว่า 15 ปีแล้วและคุณได้สร้างชื่อเสียงมากมายให้กับตัวเอง แต่ฉันจะขอให้คุณแนะนำ (และอธิบาย) ตัวเองให้ผู้อ่านของเราที่ Tattoo Life ได้ไหม ?
Yomico Moreno: สวัสดีฉันชื่อ Yomico Moreno ฉันมาจาก Venezuela เป็นช่างสักมา 15 ปีแล้ว ปัจจุบันฉันอาศัยอยู่ในนิวยอร์กและอยู่ที่นี่มา 5 ปีแล้ว
Tattoolife: จาก Venezuela ถึง Brooklyn ภูมิหลังของคุณเป็นอย่างไรบ้าง และอะไรคือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในอาชีพการงานของคุณจนถึงตอนนี้ ที่เป็นช่วงเวลาสำคัญ ช่วงเวลาที่พลิกผัน ที่ทำให้คุณเป็นมืออาชีพในวันนี้
Yomico Moreno: เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจว่า ช่วงเวลาใดเป็นช่วงเวลาสำคัญ เพราะแต่ละก้าวได้นำไปสู่อีกขั้น สมมุติว่าตั้งแต่วันแรกที่ฉันถือเครื่องสัก ฉันได้เรียนรู้ที่จะให้คุณค่ากับแต่ละขั้นตอนที่ฉันได้ทำ รวมไปความผิดพลาด และความสำเร็จ การเรียนรู้วันต่อวันเป็นสิ่งที่ฉันจะทำเสมอ เลยไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ในอาชีพการงานของฉัน มันช่วยทำให้ฉันเห็นคุณค่าของการทุ่มเทกับการเรียนรู้ และฝึกฝนอย่างหนักคือในงาน London Convention ครั้งนั้น เราได้รับรางวัล Best Award of the Show และแน่นอนว่าตอนนี้ฉันได้ทำงานใน Last Rites (สตูดิโอสักของเจ้าพ่อแนวดาร์คเรียลริสซึ่ม Paul Booth)
Yomico Moreno, Yomicoart Studio, Brooklyn, NY, USA
Tattoolife: ฉันอยากถามคุณเพิ่มเติมเกี่ยวกับตอนที่ทำให้ฉันประทับใจเป็นพิเศษ นั่นคือตอนที่คุณทำเวิร์คช็อปใน Venezuela เมื่อหลายปีก่อน มีคนมาขอบคุณคุณและพูดว่า:“ขอบคุณมากๆ ที่ทำให้มือที่เคยจับปืนของฉัน ได้มาจับเครื่องสักแทน ”. ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหมว่า่คุณรู้สึกอย่างไร ที่รู้ว่าคุณมีอิทธิพลต่อการเลือกเส้นทางชีวิตของใครบางคน?
Yomico Moreno: ตั้งแต่วันนั้นมา ฉันจริงจังการสายงานฉันมากขึ้น และฉันคิดว่าบางครั้งเราก็ไม่รู้ว่า เราสามารถมีอิทธิพลต่อผู้คนได้มากแค่ไหน มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม และการรู้วิธีจัดการสามารถทำให้เกิดสิ่งดีๆมากมาย เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของฉันเสมอ ไม่เพียงแต่สำหรับคนที่ติดตามฉัน แต่ตอนนี้สำหรับลูก ๆ ของฉันด้วยเช่นกัน พวกเขาเติบโตขึ้นและเห็นแต่ละก้าวที่ฉันทำทุกวัน
ปัจจุบันช่างสัก กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมทั่วโลกไปแล้ว และมีผู้คนมากมายให้ความสนใจกับสิ่งที่เราทำ ฉันคิดว่ายิ่งเราทำสิ่งดีๆมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งนำไปสู่การช่วยสร้างเครือข่ายของคนที่ต้องการเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นโดยทางอ้อม
Yomico Moreno, Yomicoart Studio, Brooklyn, NY, USA
Tattoolife: มาพูดถึงรอยสักที่เหมือนจริง(Realistic)ของคุณกันดีกว่า สไตล์นี้เป็นรักแรกพบของคุณเลยรึเปล่า ?
Yomico Moreno: ไม่ใช่ แนวRealisticเป็นสิ่งที่ฉันค้นพบโดยไม่รู้ว่ามันมีอยู่ในจิตใต้สำนึกของฉัน ฉันเป็นแฟนตัวยงของศิลปะยุคเรอเนสซองซ์ ศิลปินอย่าง คาราวัจโจ ทำให้ฉันนึกถึงในช่วงแรก ๆ ของการสัก ฉันต้องทำทุกอย่างตั้งแต่งาน Tribal, Japanese, Lettering, Oldschool ฉันทดลองมาทุกรูปแบบ แต่พยายามสร้างความเป็นสามมิติแทนการใช้สีเรียบๆ ฉันมักจะไล่ระดับสี และคอนทราสต์ รวมถึงทิศทางของแสง ในแต่ละดีไซน์ และโดยพื้นฐานแล้วนั่นคือสิ่งที่ Realism เป็น ทันใดนั้นวันก็มาถึง และคุณรู้ว่าคุณต้องการให้สไตล์ของคุณไปในทิศทางใด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
Yomico Moreno, Yomicoart Studio, Brooklyn, NY, USA
Tattoolife: คุณจะบอกว่างานสักของคุณมีวิวัฒนาการตามกาลเวลา ตอนนี้ยังพัฒนาขึ้นไปอีกไหม ?
Yomico Moreno: มันจะยังคงพัฒนาต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย นั่นคือศิลปะ ถ้ามันไม่มีวิวัฒนาการมันก็ตายไป วันนี้คุณสามารถเห็นสิ่งที่น่าทึ่งจากศิลปินที่สักมาเพียง 2-3 ปี เรายังคงสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ดีขึ้น เครื่องไม้เครื่องมือที่ดีขึ้น อุตสาหกรรมและวงการก็มีความมั่นคงและมีเกียรติมากขึ้น เพื่อเปิดประตูใหม่สู่วิวัฒนาการทางบวกของศิลปะ
Yomico Moreno, Yomicoart Studio, Brooklyn, NY, USA
Tattoolife: ความสัมพันธ์ระหว่างตัวคุณกับลูกค้าของคุณ มีความสำคัญเพียงใด และคุณรู้สึกว่าสิ่งนี้มีผลต่อผลลัพธ์ของกระบวนการสักหรือไม่?
Yomico Moreno: ความจริงก็คือฉันเชื่อว่ามันเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ตั้งแต่วินาทีแรกต้องมีความรู้สึกเชิงบวกระหว่างศิลปินและลูกค้า ต้องมีการจัดการที่ดีทั้งสองด้าน และพลังงานที่ดีที่สุดในช่วงเวลาเหล่านั้นที่พวกเขาจะได้นั่งสัก ไม่เหมือนกับการส่งพิซซ่า หรือขายสินค้าแบบสุ่ม ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพของลูกค้า การสักเป็นมากกว่านั้นมาก และลูกค้าจะต้องยินยอมที่จะทำเครื่องหมายบนร่างกายของคุณไปตลอดชีวิต มันน่าเสียดายที่คุณจะทิ้งประสบการณ์ที่น่าจดจำนี้
คุณไม่สามารถมองไปที่รอยสักของคุณได้หลังจากผ่านไป 10 ปี และเกลียดศิลปินที่ทำ เพราะมีบุคลิกที่ไม่พึงประสงค์ และในฐานะลูกค้าคุณไม่สามารถคาดหวังว่า ศิลปินจะทำได้ดีที่สุด เมื่อคุณสงสัยเขา หรือสร้างอุปสรรคต่อข้อเสนอทางศิลปะของเขามากเกินไป เป็นความพยายามของทีม ที่ต้องการการมีส่วนร่วมในเชิงบวกทั้งสองด้าน มิฉะนั้นทุกอย่างจะผิดพลาด ไม่ว่าศิลปินจะเก่งแค่ไหนก็ตามในแง่ของความสามารถ เราไม่เพียง แต่สักให้เขา แต่ยังรวมถึงร่วมบันทึกความทรงจำด้วย
Yomico Moreno, Yomicoart Studio, Brooklyn, NY, USA
เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆ ถูกใจกันบ้างรึเปล่า หวังว่าเรื่องราวที่เรา Becomeinked หามาฝากเพื่อนๆ จากทุกมุมโลก สำหรับบทความหน้า อยากให้เราพาไปทำความรู้จักกับช่างสักท่านใด ก็สามารถฝากเรื่องไว้ในกล่องข้อความด้านล่างเลยนะครับ วันนี้ต้องลาไปก่อน เจอกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ
Champ(WT tattoo) : แปล
Credit : Tattoolife.com