คุณแม่ยังสาวผู้เปย์ให้กับลายสัก
กลับมาพบกันเช่นเคยนะครับวันนี้เราได้นำเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับวงการรอยสักมาฝากเพื่อนๆกันอย่างเช่นเคย คุณเชื่อหรือไม่ว่า คุณแม่ยังสาวคนหนึ่งเลือกที่จะเปย์เงินมากกว่า 100 เหรียญให้กับลายสักของเขาทั้งร่างกาย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะครับ ว่าเธอจะคลั่งไคล้มากขนาดนั้น วันนี้เรามาเจาะลึกบทสัมภาษณ์ของเธอกัน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า มีคุณแม่รายหนึ่งได้ใช้เงินไปมากกว่า 100,000 เหรียญให้กับรอยสัก ที่เธอนั้นไม่มีทางจะลบออกอีกต่อไป สำหรับเธอนั้นรอยสักไม่เป็นเพียงแค่สิ่งที่เธอชื่นชอบเท่านั้น แต่เป็นถึงกับสิ่งที่เธอคลั่งไคล้เลยทีเดียว เธอจึงอุทิศตัวให้กับรอยสักมากกว่า 200 ลายบนตัวเธอ
Lisa-Marie เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่เกิดมาเพื่อจะสร้างความแตกต่างให้กับโลกใบนี้ เพราะเธอเชื่อว่าเธอไม่อยากจะเป็นหนึ่งในผู้คนที่น่าเบื่อ อยากจะโดดเด่นมากกว่าทุกคนมาตลอด
แม้ว่าในวันนี้เธอจะได้เป็นแม่อย่างเต็มตัวแล้ว แต่ในช่วงวัยที่เธออายุ 37 ปีนั้นก็ถือว่าเป็นช่วงที่เธอประสบความสำเร็จที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเธอกลายเป็นอีกหนึ่งผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณแม่ที่ชื่นชอบลายสักอีกหลายต่อหลายคน
เธอเล่าว่าลายสักแรกของเธอเกิดขึ้นเมื่อเธอตอนอายุ 14 ปี และหลังจากนั้นเป็นต้นมาเธอได้ทุ่มเงินมากกว่า 100,000 เหรียญไปกับรอยสักแล้ว แล้วเธอยังยึดมั่นในคำพูดของเธอ ว่าเธอไม่เสียใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว “ฉันคิดว่าฉันเคยดูแตกต่างจากคนอื่นสิ้นเชิงโดยตลอดเวลา หลังจากนั้นฉันก็ได้สร้างแรงบันดาลใจของตัวฉันเอง ซึ่งฉันปรารถนาที่จะบันทึกความทรงจำเหล่านั้นเอาไว้บนร่างกาย และอยากจะเห็นมันทุกๆวัน ลิซ่า มารีย์ เล่าให้เราฟัง
รอยสักแรกแม่บนร่างกายของฉันนั้นมาจากปกครองอัลบั้ม Dru Hill ซึ่งมันเป็นลายมังกร ฉันบันทึกมันไว้บนแก้มก้นขวาของฉัน เพื่อที่ฉันจะไม่ให้พ่อได้เห็นมัน
เธอเล่าว่าเธอได้จ่ายเงินไปมากกว่า 110,000 ดอลล่าร์ออสเตรเลีย ให้กับรอยสักทั้งหมดมันร่างกายของเธอ แต่เธอก็ดูไม่ได้มีท่าทีว่าจะเสียดายเงินแต่อย่างใด
“ลายแรกๆของฉัน ก็เป็นลายที่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ โดยเฉพาะสามครั้งแรก ซึ่งในตอนนี้ก็ได้ดูเละเทะไปหมดแล้ว” เธอเล่าถึงลายสักแรกในชีวิตของเธอ
ส่วนรอยสักที่ใช้เวลายาวนานที่สุดในชีวิตของฉัน ที่จะต้องใช้ระยะเวลายาวนานมากกว่า 30 ชั่วโมงตลอดเจ็ดวัน เพื่อจะทำให้งานชิ้นนี้เสร็จ น่าจะเป็นชิ้นที่เจ็บที่สุดโดยเฉพาะบริเวณเอ็นร้อยหวาย
รอยสักชิ้นต่อมาของเธอนั้น ก็คือลายสักกวางมูสบนท้องของเธอ ซึ่งเธอได้สักเอาไว้ตอนที่เธอเป็นวัยรุ่นและในขณะนี้เธอได้ตั้งครรภ์เป็นแม่คนแล้ว
ฉันรู้สึกแปลกแยกและอับอายกับลายสักของฉันบนหน้าท้อง เมื่อตอนที่ฉันตั้งครรภ์ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นฉันจะต้องแลกกับคำสบประมาทมากมาย จากครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน ที่แสดงความไม่พอใจและไม่ค่อยชื่นชอบกับร่างกายที่เปื้อนหมึกของเธอสักเท่าไหร่ แล้วยิ่งเห็นลายสักบนหน้าท้องกับอาการท้องโย้ของคนตั้งครรภ์ของเธอ แล้วยิ่งกลับมองว่า เธอดูเป็นผู้หญิงที่สกปรก
“ หลายต่อหลายคนชอบมองว่าฉันเป็นคนดุ และคนน่ากลัว เพราะว่าฉันมีรอยสักบนร่างกายเยอะ ซึ่งจริงๆแล้วฉันก็มีรูปร่างผิวหนังเหมือนกับพวกเขาทั้งหมดนั่นแหละ”
“ฉันจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งฉันเคยไปนั่งทานอาหารที่ร้านอาหาร และหญิงสูงอายุประมาณ 50 ปีไม่ยอมเสิร์ฟอาหารให้บนโต๊ะของฉัน เพราะว่ามองว่าฉันนั้นดูน่ากลัว และตัดสินฉันที่ภายนอก แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่”
“อีกครั้งหนึ่งที่ฉันได้เดินห้างสรรพสินค้า หญิงที่ตั้งครรภ์เหมือนกันเดินมาบอกฉันว่า เธอมองไม่ออกเลยเหรอว่าเธอกำลังดูเป็นอย่างไร “ พร้อมทั้งชี้ไปที่ท้องของเธอที่กำลังตั้งครรภ์อยู่
เธอต้องประเชิญเรื่องราวอย่างนี้มาอย่างยาวนานแล้ว และลองคิดดูสิว่าหากสามีหรือคู่รักของคุณไม่มีรอยสักเช่นเดียวกับคุณ มันจะดูต่างกันมากขนาดไหน นั้นมันยากที่จะยอมรับมันใช่มั้ยล่ะ
แม้ว่าจริงๆแล้วผู้ชายจะไม่ค่อยสนใจลายสักที่บนใบหน้า หรือต้นคอซักเท่าไหร่พวกเขาจะชอบมองมาที่หน้าอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันก็เป็นคนที่ไม่มีหน้าอกใหญ่ตู้มอยู่แล้ว
“
“แต่ก็ไม่ได้มีเพียงแค่คนตำหนิฉันเท่านั้นนะ คนที่ชื่นชอบลายสักของฉันก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกัน ซึ่งคนเหล่านั้นมองว่าฉันได้ทุ่มเท และต้องอดทนกับความเจ็บปวดมากขนาดไหน ที่ได้รับศิลปะบนเรือนร่างที่สวยเช่นนี้”
“ลูกสาวตัวเล็กของฉันก็ชื่นชอบที่ร่างกายของฉันมีรอยสักเช่นเดียวกัน เธอชอบจะมาอยู่ใกล้และถามนู่นถามนี่เกี่ยวกับรอยสักของฉัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เธอจะกลายมาเป็นคนดังในทุกวันนี้
ในปี 2548 นั้นตัวลิซ่าเองก็ได้ถูกแมวมองทาบทามให้ไปเป็นนางแบบลายสัก ที่เราเห็นกันตามนิตยสาร ซึ่งเธอดูว่าซึ่งดูว่าเธอเหมาะสมสำหรับเธอขึ้นหน้าปกนิตยสารเป็นอย่างมาก เธอบอกว่าที่สำคัญแฟนตัวยงของเธอนั้นก็คือลูกสาววัยสองขวบของเธอนั่นเอง
“แม้ว่าลูกสาวตัวน้อยของฉันจะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากนัก เพราะว่าเธอมีอายุแค่สองขวบเท่านั้นเอง เธอชอบนำปากกามาขีดเขียน ลงสีให้กับรอยสักบนแขนของฉัน เธอบอกว่าอยากจะทำให้ฉันดูดียิ่งขึ้น”
แล้วถ้าถามฉันว่าโตขึ้นฉันวางแผนให้ลูกไว้อย่างไรบ้าง ฉันก็จะบอกว่าฉันจะสนับสนุนให้เธอเป็นตัวของตัวเอง และตัดสินใจเลือกทุกๆอย่างด้วยตัวเธอเอง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปอยู่ที่ไหนก็ตาม หรือแม้แต่การใช้ชีวิตที่งดงามในรูปแบบของเธอ แต่อย่างไรก็ตามลูกสาวก็ไม่ใช่กำลังใจเพียงหนึ่งเดียวของเธอเพราะว่ายังมีคนอื่นๆทั่วโลกจับตามองเธออยู่ ในฐานะที่เป็นนางแบบสาวสวยผู้มีรอยสักมากมายเต็มร่างกายอย่างสวยงาม
ในปัจจุบันมีคุณแม่ที่ชื่นชอบรอยสักกันอยู่มากมาย
คงจะปฏิเสธไม่ได้อีกแล้วนะครับว่า ในปัจจุบันนี้เรื่องราวของรอยสักนั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ผู้คนทุกเพศทุกวัยสามารถมีรอยสักได้ แต่ที่สำคัญควรจะตอนจำเป็นจะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปเสียก่อน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องคุณแม่ที่มีรอยสักนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ในปัจจุบัน กลายเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเสียมากกว่า ที่จะมาทำให้อับอายกัน ขอให้เป็นเพื่อนมีความสุขกับบทความชิ้นนี้นะครับ โดยเฉพาะคุณแม่ผู้มีลายสัก
บทความนี้เป็นบทความที่สื่อถึงความเป็นความเท่าเทียมกันบนสังคมระหว่างชายและหญิงไม่ว่าคุณจะเป็นเพศแม่ หรือเป็นเพศผู้ก็ตาม คุณก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยง หรือแม้แต่มีรอยสักอยู่บนร่างกายของคุณ ไม่มีใครบนโลกสามารถตัดสินคุณได้ ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยเปิดโลกให้กับใครๆใครที่ยังมองว่ารอยสักเป็นเรื่องร้ายอยู่นะครับ
….
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ คุณแม่ยังสาวสายเปย์ กับรอยสักบนร่างกายเธอถึง 110,000 เหรียญ ที่เรา Becomeinked นำมาฝากกัน วันนี้ผมต้องลาไปก่อน สำหรับบทความหน้าเราจะพาเพื่อนๆไปดูรอยสักประเภทไหนกันอีกบ้าง ก็สามารถติดตามกันไว้ได้เลยนัครับ หากเพื่อนๆต้องการฝากคำติชมให้เรา ก็สามารถพูดคุยกันผ่านกล่องข้อความด้านล่างกันได้เลยนะครับ พบกันใหม่ในบทความหน้า ขอให้ทุกคนโชคดี สวัสดีครับ สล็อต pg เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์
cr : tattoos.news
หากคุณอยากได้รอยสักที่มีคุณภาพจากร้านที่เชื่อถือได้ ตามมาตราฐานความปลอดภัยของสาธารณะสุข ผมแนะนำร้านนี้เลยครับ Wt tattoo ( facebook / IG )
champ : เขียน
