สักเสร็จใหม่ๆควรดูแลแผลอย่างไรให้ปลอดภัย ปลอดเชื้อ ทุกวันนี้ ไม่ว่าคุณจะเดินไปทางไหนคุณก็จะเห็นคนมีรอยสักกันเต็มไปหมด เนื่องจากสังคมไทยเริ่มเปิดกว้างเรื่องรอยสักมากขึ้นซึ่งรอยสักในตอนนี้สามารถเห็นได้ทุกเพศทุกวัยเช่นเดียวกับร้านสักที่เต็ม ไปหมดทั่วบ้านทั่วเมืองไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีแต่ร้านสัก แต่จะดีกว่าไหมถ้าคุณสักแล้วได้รอยสักที่มีคุณภาพติดตัวมา มากกว่าแผลติดเชื้ออย่างที่คุณเห็นในตามข่าวกัน
วันนี้ผมเอาเคล็ดลับดีดี สำหรับการดูแลรอยสักหลังจากสักเสร็จใหม่ใหม่ จนถึงหายสนิท ไม่ยากเลยครับแค่เป็นเพื่อนต้องใส่ใจมันนิดนึง โอเคเราอย่ารอช้ากันเลยตามมาเลยครับ
วิธีดูแลแผลรอยสักหลังจากสักเสร็จใหม่ๆ
หลังจากสักเสร็จใหม่ๆ บริเวณรอบรอยแผลก็จะเกิดเป็นแผลเปิด ซึ่งการดูแลอย่างถูกวิธีต้องช่วยป้องกันแผลจากการติดเชื้อ และการเกิดรอยแผลเป็นจากภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ การที่จะทำให้รอยสักของคุณสวยงามคงทนในระยะยาวได้นั้น คุณควรศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลรอยสักอย่างเหมาะสม ซึ่งวันนี้ผมรวบรวมมาให้อย่างละเอียดแล้ว
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่าช่างสักได้ทำการใช้พลาสติกแร็พในบริเวณที่สักเสร็จใหม่ใหม่ให้คุณ เนื่องจากการปิดแผลด้วยการแร็พพลาสติกนั้น จะทำให้ช่วยป้องกันฝุ่นและแบคทีเรียต่างๆในระหว่างที่แผลยังเปิดอยู่ และนอกจากนี้ก็ยังช่วยลดการเสียดสีกับเสื้อผ้าได้หลังจากสักเสร็จแล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมงแผลรอยสักใหม่ก็จะทำการปิดและผิวก็จะเริ่มคืนสภาพดังเดิม ตอนนั้นสามารถดึงพลาสติกแร็พออก และล้างน้ำเปล่าให้สะอาด แต่ขอย้ำไว้ก่อนนะครับว่า ห้ามใช้น้ำสบู่เด็ดขาด
- หลังจากผ่านไปวันแรก ทุกๆเช้าคุณควรจะล้างแผลคุณด้วยน้ำเกลือ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคในทุกๆวัน และหากว่าคุณมีกิจกรรมที่จะต้องออกไปทำข้างนอกทำ คุณต้องทำให้รอยสักของคุณต้องไปเจอกับแสงแดดหรือมลภาวะ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงนัก คุณก็ควรใช้พลาสติกแร็พบริเวณรอยสักใหม่ของคุณ ก่อนออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ แต่ช่วงนี้ให้พยายามหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การว่ายน้ำ และการแช่น้ำเป็นเวลานานนานไว้ก่อน เพราะนั่นอาจจะทำให้แผลของคุณเปื่อยได้
- รอยสักที่ดีไม่ควรใช้เวลาเกินหนึ่งอาทิตย์ที่แผลเหล่านั้นจะลอกเป็นสะเก็ดบางบางหลุดออกไป หลังจากที่คุณเริ่มรู้สึกว่าแผลมันเริ่มตึงตึงแล้วให้คุณทาบางๆด้วยวาสลีนหรือโลชั่นบำรุงรอยสักตามค่ายต่างๆที่มีขายกันทั่วไปหรือจะให้ชัวร์ที่สุด ก็ให้ใช้ยาบีแพนเทนเฟิสเอททาทุกทุกวัน จนกว่าแผลจะแห้งหมด และอย่าลืมล้างน้ำเกลือทุกเช้าเย็น เพราะว่าหากแผลของคุณไม่ได้มีอาการติดเชื้อแล้ว ก็จะทำให้รอยสักของคุณลอกหมดแล้วยังคงสดใหม่ ดูสวยงามสีติดครบอยู่ดังเดิมครับ
งั้นเรามาดูการดูแลรอยสักในระยะยาวกันบ้าง
แม้ว่าคุณจะสักมาแล้วหายดีแล้ว แต่คุณก็ควรดูแลรอยสักอยู่สม่ำเสมอ เพื่อการคงสภาพสีของรอยสักให้สดใหม่อยู่เหมือนเดิม เรียกง่ายง่ายว่าคุณควรประทินผิวหากคุณอยากได้รอยสักที่สวยงามอยู่ตลอด เคล็ดลับไม่มีอะไรยากเลยแค่ทำตามดังนี้ครับ
- หมั่นดื่มน้ำมากๆ เพราะน้ำเป็นตัวช่วยที่จะให้ผิวคุณชุมชื่นตลอดทั้งวัน หากร่างกายขาดน้ำแล้วก็จะไม่มีน้ำไปเลี้ยงอยู่ในชั้นผิว จึงทำให้ผิวหยาบกร้านและส่งผลให้รอยสักของคุณ ไม่เด่นชัดเหมือนก่อน เพราะฉะนั้นเรื่องเล็กๆอย่างนี้ไม่ควรมองข้ามนะครับ
ควรรักษาความสะอาดบริเวณที่สักมาอยู่เสมอ
ด้วยการล้างทำความสะอาดด้วยสบู่ ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ความหมายของในข้อนี้หมายความว่า แม้ว่ารอยสักของคุณจะผ่านไปนานถึงห้าปีแล้ว การดูแลบริเวณรอยสักให้สะอาดอยู่สม่ำเสมอ ก็ถือว่าเป็นการช่วยให้รอยสักของคุณ ไม่ซีดจางลงยังคงสดใสเหมือนตอนวันแรกแรกที่เพิ่งสักเสร็จมา
- หากคุณมีเหตุจำเป็นที่จะต้องตากแดด คุณควรสวมเสื้อผ้าป้องกันแดด หรือแม้กระทั่งทาครีมกันแดดด้วยเพราะว่าแสงแดดคือตัวการสำคัญที่จะทำให้รอยสักจางเนื่องจากแสงแดดจะทำให้เมลานินของชั้นผิวดูคล้ำคนที่มีผิวคล้ำอยู่แล้วก็จะยิ่งคล้ำลงไปใหญ่ ส่วนคนที่มีผิวคล้ำและสักงานสี ไม่ต้องสืบเลยครับว่าสีนั้น ก็จะดูเศร้าหมองไม่สดใสเหมือนตอนที่คุณสักใหม่ใหม่อย่างแน่นอน
- หลายคนสักตอนอ้วนจนปัจจุบันนี้ผอม และหลายคนก็สักตอนผอมแต่ในวันนี้อ้วน หากคุณต้องการให้รอยสักของคุณยังคงสภาพเดิมอยู่ คุณควรจะควบคุมน้ำหนักเอาไว้ให้สม่ำเสมอ เพราะเมื่อคุณอ้วนขึ้นแล้วรอยสักของคุณก็จะขยายตามไปด้วย นั่นหมายความว่าหากคุณต้องการจะสักซักหนึ่งลาย คุณก็ควรจะคิดให้เยอะว่าหากวันนึง คุณอ้วนขึ้นลายนี้จะกลายเป็นเป็นรูปอะไร แต่ที่แน่แน่คงไม่สวยและน่ารักเหมือนตอนวันแรกแรกที่คุณสักมาแน่นอน
ข้อบ่งชี้ว่าคุณกำลังติดเชื้อจากการสัก
- หากคุณมีอาการดังนี้หลังจากสักควรรีบพบแพทย์ในทันทีนะครับ
- มีไข้ตัวสั่นและมีอาการบวมมากๆของบริเวณรอยสัก
- มีของเหลวไหลซึมออกมาจากแผลปริมาณมาก ของเหลวชนิดนั้นก็คือ น้ำเหลืองน้ำหนองนั่นเอง
- สะเก็ดแผลขึ้นบริเวณรอบรอยสักหากคุณดูแลรักษาแผลไม่ดี หรือแม้แต่ฝีมือของช่างคนนั้นนั้นไม่ชำนาญ ก็จะทำให้แผลของคุณเป็นสะเก็ดหนาและเมื่อลอกมาหมดสีก็จะไม่ติด
- มีอาการคันและมีอาการบวมกว่าหนึ่งสัปดาห์
- มีอาการแพ้หมึกที่ใช้สัก ซึ่งประเด็นนี้เราต้องแยกกันก่อนนะครับว่า ร้านที่คุณได้ไปสักมามีมาตรฐานตามสุขลักษณะหรือเปล่า และทางร้านใช้หมึกที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้จะรวมถึงเรื่องจรรยาบรรณของช่าง และอีกเรื่องหนึ่งที่เห็นกันได้บ่อยที่สุดก็คือ ต่อให้เป็นช่างที่เก่งและเป็นสีที่ได้คุณภาพไม่ใช่สีที่เราเรียกกันว่า “สีปลอม” ก็ยังทำให้ผู้ที่มาสักเกิดอาการติดเชื้อจากการแพ้สีสักอยู่ดี อาการอย่างนี้เป็นอาการเฉพาะตัวที่ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องแพ้ แต่เป็นปัญหาส่วนบุคคลครับ
เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการจะมีรอยสักสวยสวยซักชิ้นไว้บนร่างกายของคุณ คุณต้องอย่าลืมว่าหากคุณได้รับรอยสักมาแล้วนั่นคือหน้าที่ของคุณ ที่จะต้องดูแลรอยสักออกมาให้สวยงามที่สุด พูดกันตรงตรงว่าหมดหน้าที่ของช่างสักแล้ว คุณควรศึกษาวิธีการดูแลหลังการสักให้ดีเพราะนั่นก็สำคัญพอๆกับระหว่างที่คุณศักดิ์เลย
สักเสร็จใหม่ๆควรดูแลแผลอย่างไรให้ปลอดภัย ปลอดเชื้อ
ที่มา pobpad
รูป pinterest